MM0018
လူထုဦးလှ
นานมาแล้วมีกษัตริย์พุกามองค์หนึ่งเป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรม ในสมัยของพระองค์ได้ส่งพระสงฆ์เพื่อไปเผยแพร่ศาสนาในทุกพื้นที่ที่อยู่ใต้ปกครอง และได้ส่งคนไปเพื่อปกครองไม่ให้เกิดความยากลำบากไม่ว่าในพื้นที่ ในขณะนั้นเจ้าฟ้าที่ปกครองอยู่บนเขาสร้างวังอยู่ใกล้เมืองน้ำสานในปัจจุบัน กษัตริย์พุกามได้ส่งอำมาตย์มาในพื้นที่นี้เพื่อสอนภาษาพม่าและเผยแพร่ศาสนาให้แก่ชาวปะหล่อง ต่อมาด้วยความพยายามของเขาจึงสามารถติดต่อสื่อสารกับชาวปะหล่องผ่านภาษาพม่าได้ ในเวลานั้นเหล่าอำมาตย์ที่ถูกส่งไปพื้นที่ต่างจะต้องกลับมารายงานต่อกษัตริย์พุกามปีละหนึ่งครั้ง อำมาตย์ที่ถูกส่งไปยังพื้นที่ชาวปะหล่องก็เช่นกัน เขาจึงได้เลือกชาวปะหล่องที่สามารถสื่อสารภาษาพม่าได้ดีจำนวนสิบคน เพื่อมาเข้าเฝ้ากษัตริย์ เหล่าอำมาตย์และเจ้าฟ้าจากพื้นที่ต่างๆได้สลับกันทูลถึงความยากลำบากพื้นที่ของตนถึงจนถึงคราวของชาวปะหล่อง เมื่ออำมาตย์ได้เบิกความ จึงมีชายชาวปะหล่องนามว่า “โบปะหล่อง” กราบทูลเรื่องความทุกข์ร้อนของตนเป็นภาษาพม่าแต่ไม่ชัดว่า “เขาเป็นชาวปะหล่อง มีอาชีพทำไร่และเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย วันหนึ่งได้มีเสือมากินวัวควายที่เลี้ยงไว้ในไร่ของเขา เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงก็รุมยิงด้วยลูกธนูและไฟ เมื่อยิงเสือด้วยธนูก็ถูกเข้าที่หัวและพุ่งออกตรงก้น เสือตัวนั้นตัวใหญ่เท่ากับควาย หากไม่เชื่อให้ลองถามอำมาตย์ดู” กษัตริย์เมื่อได้ฟังดังนั้นแล้วก็เห็นถึงความพยายามและตรากตรำของอำมาตย์ จึงตบรางวัลให้เขา และโปรดให้โบปะหล่องเรียนภาษาพม่าต่ออีกสามปี เมื่อกลับจากเมืองหลวงเขาจึงได้ชื่อว่า “ชายแก่ผู้กลับจากเมืองหลวง” เรื่อยมา
เสือ, ควาย, เมืองพุกาม, การปกครองประเทศ
โบปะหล่อง, ชายแก่ผู้กลับจากเมืองหลวง
พุกาม, เมืองน้ำสาน
MM
MM
TEXT
TEXT
นิทานอื่น