MM0031
လူထုဦးလှ
นานมาแล้วที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำประมงและล่าสุดเป็นส่วนใหญ่ ผนวกด้วยอาชีพแผ้วถางป่าททำไร่ทำนาที่มีมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ในบรดาชาวบ้าน มีผู้ที่มีความสภาพที่สุดคือ ต่าก่อวันหนึ่งต่าก่อได้ชวนเพื่อนในหมู่บ้านไปหาแกงแดง “ตู่โข่” คนอานเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็นึกว่าตู่โข่คือแกงสีแดงที่เต็มไปด้วยพืชพันธุ์ จึงตามไป ทั้งที่จริงแล้วเขาใช้ตู่โข่เป็นคำสุภาพแทนการไปล่าสัตว์เมื่อล่าสัตว์กลับมาแล้วทั้งหมดได้เนื้อสัตว์กลับมามากมาย ต่าก่อจึงได้เรียกเพื่อนๆรวตัวเพื่อประชุมเรื่องจะทำ “ซัส” ในตอนแรกชาวบ้านคนอื่นๆก็ไม่เข้าใจว่าคืออะไร ดังนั้นต่าก่อจึงได้รวบรวมชาวบ้านเท่าที่จะหาได้ไปทำการแผ้วถางป่าเพื่อใช้ทำไร่ทำสวน และนำวัชพืชเหล่านั้นมาทำปุ๋ยในหน้าฝน เมื่อถึงหน้าหนาวก็สามารถล่าสัตว์ได้ง่ายขึ้นเมื่อถึงหน้าฝนอีกปีต่าก่อและเพื่อนๆก็ได้ตัดต้นไม้ที่เหลือเพื่อนำพื้นที่มาทำไร่ ปลูกธัญพืชมากมายเพื่อใช้ในการกินอยู่(การทำซัสของต่าก่อ) เมื่อถึงหน้าร้อนต่าก่อก็ได้ไปทำประมง และเมื่อชาวบ้านเห็นและถามว่าเขาไปไหนมา เขาจะตอบอย่างสุภาพว่า ไปดำเนินชีวิตมา(ไปจับปลามา) เมื่อกลับจากไปทำไร่เขาจะอย่างสุภาพตอบว่า ไปเก็บผักมาจึงเป็นที่มาให้ชาวปะหล่องใช้คำสุภาพตามต่าก่อมาจนถึงปัจจุบัน
ล่าสัตว์, ตู่โข,ซัส
ต่ากอ,ชาวบ้าน,ประมง
การใช้คำสุภาพ
ไร่,นา
MM
MM
TEXT
TEXT
นิทานอธิบายเหตุ