MM0046
လူထုဦးလှ
นานมาแล้ว ณ หมู่บ้านไทใหญ่บนเขา สามีภรรยาคู่หนึ่งได้ให้กำเนิดลูกชาย ลูกชายเขาถูกตามใจมาตั้งแต่เด็กจนโตขึ้นก็ไม่มีความรู้ ไม่ทำงานทำการ เที่ยวเล่นในหมู่บ้านไปวันๆ จนวันหนึ่งพ่อแม่ของเขาก็ทนไม่ไหวเรียกมาคุยและได้ไล่ออกจากบ้านไป พร้อมทั้งให้เงินติดตัวจำนวน 12 อัฐไว้ใช้จ่าย เขาได้เดินทางไปที่เมืองแห่งหนึ่งและได้อาศัยอยู่ที่ศาลาประจำเมืองนั้น เด็กหนุ่มได้เห็นผู้คนในเมืองออกไปทำงานอย่างขยันขันแข็ง จึงมีความคิดว่าตนต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเลี้ยงชีพ ก็ได้นำเงิน 12 อัฐที่พ่อแม่ให้มาไปลงทุนซื้อผักมาขาย แต่ด้วยความที่เงินลงทุนน้อยจึงได้กำไรพอแค่เพียงค่าอาหารไปวันๆเท่านั้น เขาจึงนึกย้อนไปถึงพ่อแม่ของตนว่าพวกเขาชอบทำบุญทำทานจึงมีเงินมีทรัพย์สิน เขาจึงนำเงินทั้ง 12 อัฐไปซื้อผักแล้วแจกคนในตลาดทั้งหมด เมื่อแจกผักหมดแล้วเขาไม่เหลือเงินจะกินข้าว ด้วยความหิวจึงไปหยุดอยู่ใต้ร่มไทรต้นหนึ่ง แล้วได้นำมดสองตัวมาปะลองกำลังต่อสู้กัน เขาได้ส่งเสียงเชียร์ดังจนเป็นที่สนใจของผู้คนที่เดินทางกลับจากตลาดในเวลานั้น จนผู้คนพากันเรียกเขาว่า “ไอ้ถ่อมุ้ด” หรือคนปะลองมด ในขณะนั้นเองได้มีลูกสาวเสนาบดีทหารชื่อ สิริจันทา ผ่านมาเห็นก็เกิดชอบพอในตัวไอ้ถ่อมุ้ดที่มีรูปร่างหน้าตาดี สมเป็นชายชาตรี เมื่อมดสู้กันเสร็จ สิริจันทาได้เข้าไปพูดคุยกับไอ้ถ่อมุดว่าเป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงสนุกกับการเอามดมาต่อสู้กัน ไอ้ถ่อมุ้ดได้ตอบว่าตนไม่ได้สนุกกับการต่อสู้ของมด แต่ทำไปเพื่อให้ลืมความหิวเท่านั้น เนื่องจากตนไม่มีเงินกินข้าว สิริจันทาได้ยินดังนั้นก็เกิดความสงสารจึงได้ชวนไอ้ถ่อมุ้ดไปที่บ้าน แต่ด้วยความที่เสนาบดีเป็นคนมีทิฐิ จึงไม่อนุญาตให้ไอ้ถ่อมุ้ดพักอยู่ที่บ้าน แล้วเย็นวันนั้นสิริจันทาก็ได้นำห่อข้าวมาให้ไอ่ถ่อมุ้ด คลี่ออกมาพบว่าเป็นหินสามก้อน ก้อนแรกคือหินที่เมื่อถูแล้วจะสามารถขอได้ตามที่ปราถนา ก้อนที่สองคือทับทิมที่มีมูลค่ามหาศาล อีกก้อนนึงคือหินที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ สิริจันทาได้สั่งไม่ห้ามให้ใครเห็นหินสามก้อนนี้เพราะจะมีอันตราย ยกเว้นชนชั้นกษัตริย์ เสนาบดีหรือบรรดาเศรษฐีเท่านั้น และหากจะออกมาแสดงให้วางบนข้าวตอกดอกไม้ บนพานเงินพานทอง พร้อมด้วยมีค่าแสดงเป็นเงิน 100 อัฐ ทั้งยังสั่งอีกว่าห้ามลืมตัวนาง ไอ้ถ่อมุ้ดได้เดินทางกลับศาลาที่ตนอาศัยอยู่ และคิดว่าที่ตนได้หินสามก้อนมาเพราะได้ทำทานไว้ วันหนึ่งได้มีเศรษฐีเอาฝูงวัวขนของผ่านมาและได้พักที่ศาลา เศรษฐีชอบกินแกงมะเขือมาก ผู้คนจึงเรียกว่าเศรษฐีมะเขือ แต่ลูกน้องของเขาสองคนเบื่อหน่ายและไม่ชอบกินแกงมะเขือ จึงได้เข้าไปหาไอ้ถ่อมุ้ดเพื่อขออาหารกิน ไอ้ถ่อมุ้ดก็แบ่งอาหารให้กินเพราะมีอาหารเยอะอยู่แล้วจากการขอจากหิน ทั้งสองจึงฝากตัวเป็นลูกน้องของไอ้ถ่อมุ้ดตั้งแต่นั้นมา อยู่มาวันหนึ่งทั้งสามได้เดินทางไปยังตลาดในเมืองและได้ซื้อเนื้อดองเลี้ยงชาบ้านที่เดินผ่านไปผ่านมา เมื่ออำมาตย์ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์มาพบเข้าก็ได้ถามว่าทำไมถึงมีเงินเลี้ยงคนมากมาย ไอ้ถ่อมุ้ดก็ได้เล่าเรื่องที่ตนมีหินสามก้อนให้อำมาตย์ฟัง อำมาตย์ได้ยินดังนั้นก็เอาเรื่องไปกราบทูลกษัตริย์ กษัตริย์จึงได้เรียกทั้งสามเข้าเฝ้าพร้อมขอดูหินทั้งสามก้อน ไอ้ถ่อมุ้ดก็ได้ชี้แจงว่าต้องทำอย่างไรบ้างถึงจะได้ดูหินและเอาหินออกมาให้ดู เมื่อเห็นบรรดาหินที่มีค่ามหาศาลกษัตริย์ก็อยากครอบครองไว้ จึงแต่งตั้งไอ้ถ่อมุ้ดให้เป็นมหาอุปราชและแต่งงานกับลูกสาวของตน บรรดาเหล่าขุนนางก็เกิดความไม่พอใจ ว่ากษัตริย์ได้แต่งตั้งคนที่ไม่มีความรู้ความสามารถ ไม่รู้ถิ่นที่มา จึงปรึกษากันว่าจะขับไล่ไอ้ถ่อมุ้ด แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรกษัตริย์ก็ไม่ปลดไอ้ถ่อมุ้ดจากตำแหน่ง จึงได้ทำการยึดอำนาจกษัตริย์ โดยได้นำกองกำลังเข้าล้อมวัง กษัตริย์ก็ได้เรียกลูกเขยมาปรึกษา ไอ้ถ่อมุ้ดจึงได้ถูหินแล้วก็เกิดไฟไหม้เหล่าบรรดาทหารขุนนางพวกนั้นจนหนีไปคนละทิศละทาง เหล่าขุนนางเมื่อเห็นอิทธิฤทธิ์ของหินที่ไอ้ถ่อมุ้ดครอบครองอยู่ก็เข้ามาขออภัยโทษต่อกษัตริย์ ด้วยความที่ไอ้ถ่อมุ้ดขอไว้กษัตริย์จึงไม่ได้ลงโทษอะไร ในเวลานั้นเองกษัตริย์ก็ได้คิดว่าถึงเวลาที่ตนจะต้องสละราชสมบัติเพราะตนแก่มากแล้ว จึงให้ไอ้ถ่อมุ้ดขึ้นเป็นกษัตริย์แทน เมื่อไอ้ถ่อมุ้ดขึ้นเป็นกษัตริย์ก็ไม่ลืมผู้มีพระคุณของตน ได้แต่งตั้งสิริจันทาเป็นอัครเทวีมเหสีควบคู่กับลูกสาวกษัตริย์ และได้การทำบุญทำทาน ปกครองเมืองเสมือนพ่อปกครองลูกเรื่อยไป
มด, ความโชคดี, หินวิเศษ
ไอ้ถ่อมุ้ด,สิริจันทา, คนปะลองมด
การกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ
MM
MM
TEXT
TEXT
นิทานมหัศจรรย์