MM0050
လူထုဦးလှ
นานมาแล้วมีสามีภรรยาคู่หนึ่งทำมาหากินอย่างยากลำบากและได้ตายไปด้วยความลำบากตรากตรำจากการทำมาหากิน ทิ้งลูกชายทั้งสามคนที่ไม่แข็งแรงไว้เพียงลำพัง ด้วยความหิวเด็กชายทั้งสามก็ได้เที่ยวไปขออาหารชาวบ้าน จนวันหนึ่งพวกเขาเกิดความละอาย พี่ชายคนโตจึงตัดสินใจว่าทั้งสามจะต้องออกเดินทางเพื่อหาหนทางเลี้ยงชีพของพวกตน และเพื่อให้สามารถจำกันได้ว่าเป็นพี่น้อง จึงได้แบ่งซึ้งไม้ไผ่ที่เป็นมรดกจากพ่อแม่ของตนเป็นสามส่วน และพูดกับน้องๆว่าในอนาคตถ้าเจอซึ้งสามส่วนนี้ประกอบกันได้พอดีก็ให้แน่ใจว่าเป็นพี่น้องของตน เมื่อเดินทางไปถึงเมืองหนึ่ง น้องชายคนเล็กก็ได้ขอตัวอาศัยหากินที่เมืองนี้ โดยได้ไปของานทำที่บ้านเศรษฐี เริ่มจากงานเล็กๆน้อยๆในบ้านค่อยๆขยับไปเป็นคนเลี้ยงวัว และได้เป็นมือขวาของเศรษฐีในที่สุด จนเวลาผ่าน 20 ปี ก็ได้มีความคิดอยากเป็นเจ้าคนนายคนจึงได้ขอลาจากเศรษฐี ในทีแรกเศรษฐีก็ได้ห้ามไว้พร้อมทั้งเสนอเงินทองให้ แต่เด็กหนุ่มก็ไม่สนใจและได้ขอควายเผือกที่ตนรักก่อนเดินจากออกจากบ้านเศรษฐีไป เด็กหนุ่มได้เดินทางมายังหมู่บ้านหนึ่ง ได้มีผู้มีวิชาต้องการปรุงยาอมตะ ได้มาขอควายเผือกของเขาเพื่อไปปรุงยา โดยแลกกับสิ่งที่เด็กหนุ่มต้องการ เด็กหนุ่มก็บอกว่าตนต้องการเป็นกษัตริย์ ผู้มีวิชาจึงได้ให้ไก่โต้งตัวเล็กกับเขาหนึ่งตัวพร้อมด้วยเชือกเถาวัลย์ลงยา โดยบอกให้เดินทางไปยังป่าลึกแล้วผูกขาข้างหนึ่งของไก่ด้วยเชือกลงยา ให้รอจนไก่ขันจนจบ สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลง จะมีฝนฟ้าคะนองรุนแรง เมื่อพายุสงบแล้วจะได้พบกับแสงสว่าง ในแสงสว่างจะปรากฎพระราชวังสีทอง พร้อมด้วยชาวเมืองมากมาย และจะมีเหล่าขุนนางมาเชิญเขาไปเป็นกษัตริย์ เด็กหนุ่มก็ทำตามผู้ที่มีวิชาบอกแล้วได้เป็นกษัตริย์ในที่สุด ฝั่งพี่ชายทั้งสอง คนหนึ่งได้สีไวโอลินอีกคนก็ร้องเพลงและได้ประกอบอาชีพนักดนตรีหาเลี้ยงชีวิตเรื่อยมา แต่ก็ไม่ร่ำรวยเพราะเมื่อไปเล่นดนตรีต่อหน้า ผู้คน ขุนนาง หรือกษัตริย์ตามเมืองต่างๆ ได้เงินมาแล้วก็หมดไปกับกับเที่ยวกิน ทั้งสองได้รู้ข่าวว่ามีเมืองประหลาดเกิดขึ้นในป่าลึก จึงหวังจะไปเล่นดนตรีหาเงินให้ได้มากๆ และได้เดินทางไปยังเมืองที่น้องชายของตนปกครองอยู่ เหล่าเสนาบดีเห็นนักดนตรีทั้งสองมีฝีมือก็ได้ชวนให้ไปเล่นต่อหน้ากษัตริย์ เมื่อเล่นดนตรีเสร็จแล้วกษัตริย์ก็สงสัยว่าทั้งสองเป็นพี่ชายของตนหรือไม่ จึงเรียกเขาไปในห้องส่วนตัวเพื่อถามว่าทั้งสองเป็นใครมาจากไหน เมื่อได้ฟังเรื่องราวกษัตริย์ก็ทราบทันทีว่าเป็นพี่ชายทั้งสองของตนและได้ขอดูซึ้งไม่ไผ่ เมื่อทั้งสามเห็นว่าซึ่งไม้ไผ่ประกอบกันได้พอดีก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง ผู้เป็นน้องเล็กได้เล่าที่มาของตนพร้อมเสนอให้พี่ชายทั้งสองเอาไก่โต้งที่ได้จากผู้มีวิชาไปทำแบบตนก็จะได้เป็นกษัตริย์เช่นกัน ทั้งสองจึงได้เดินทางไปกลางป่าลึก เลือกทำเลที่เหมาะจะสร้างเมืองและได้ผูกขาไก่ด้วยเถาวัลย์ตามที่น้องชายบอก เมื่อสิ้นเสียงไก่ขันก็เกิดพายุแปรปรวน ด้วยความกลัวทั้งคู่ก็ได้หาต้นไม้ใหญ่เพื่อเป็นที่กำบัง ในความมืดนั้นทั้งสองได้คว้าขาไก่คนละข้างและดึงไว้เพราะกลัวไก่จะหนีไป ทั้งคู่ต่างออกแรงดึงทำให้ไก่โต้งตัวนั้นตาย เมื่อพายุสงบลงก็ไม่ได้เกิดพระราชวังตามที่น้องชายบอก ด้วยความหิวทั้งสองจึงได้นำไก่ที่ตายแล้วมาย่างกิน ด้วยความกลัวว่าตนทำไก่ตายทั้งสองจึงไม่กล้ากลับเมืองไปหาน้องชายและได้ใช้ชีวิตนักดนตรีเร่ร่อนไปตลอดทั้งชีวิต
พี่น้อง
พี่ชาย, น้องชาย
ความขยันหมั่นเพียร, ความขี้ขลาดเบาปัญญา
MM
MM
TEXT
TEXT
นิิทานอื่นๆ