TH0039
หญิงชายคู่หนึ่งแต่งงานกัน แล้วให้กำเนิดบุตรชายหนึ่งคน ต่อมาสามีได้ตายจากไป ทิ้งให้หญิงหม้ายเลี้ยงลูกตามลำพัง หญิงหม้ายจึงพาลูก "ท้าวกำพร้า" ไปอาศัยอยู่เมืองอุดม ซึ่งมี "พระยากุญชโร" ปกครอง เมื่อท้าวกำพร้าลูกชายโตเป็นหนุ่ม ได้ไปเรียนวิชาต่อไก่ (ภูมิปัญญาท้องถิ่น) จากชายคนหนึ่งจนชำนาญ ที่เมืองพญานาค มี "ท้าวกะโยงคำ" เป็นผู้ปกครอง มีธิดาชื่อว่า "นางสีดา" ในอดีตชาตินางเคยเป็นภรรยาของท้าวกำพร้า นางยังคิดถึงอดีตสามีอยู่เสมอ วันหนึ่งขณะที่ท้าวกำพร้ากำลังต่อไก่อยู่ในป่า นางสีดาได้แปลงกายเป็น ไก่แก้ว (ไก่เผือก) ไปปรากฏให้ท้าวกำพร้าเห็น ท้าวกำพร้ากระโดดตะครุบไก่แก้ว แต่ไก่แก้ววิ่งหนีลงรูหายไป ท้าวกำพร้ากำได้เพียงขนหางนางเส้นหนึ่ง กลิ่นขนนั้นหอมมาก ส่งกลิ่นไปถึงวังของพระยากุญชโร พระองค์จึงมีรับสั่งให้ท้าวกำพร้าเข้าเฝ้า และใช้ให้ลงรูเพื่อตามไก่หอมนั้นมาถวาย เมื่อท้าวกำพร้าลงไปในรู ซึ่งเป็นเมืองบาดาล ได้พบนางสีดา (ภรรยาคนที่ ๑) ซึ่งเป็นภรรยาแต่อดีตชาติ จึงแต่งงานกัน ท้าวกำพร้าอยู่เมืองบาดาลชั่วระยะหนึ่งก็คิดถึงมารดา จึงพานางสีดาขึ้นมาเมืองมนุษย์ แต่ด้วยกรรมเก่าทั้งสองจึงต้องพลัดพรากจากกัน นางสีดาถูกพระยากุญชโรแย่งชิงนำไปขังไว้ (ผิดศีลธรรม) เพื่ออภิเษกเป็นมเหสี แต่พระยากุญชโร (ไม่มีศีลธรรม) ไม่สามารถเข้าใกล้นางได้ เพราะร่างกายนางสีดาร้อนดังไฟ ฝ่ายท้าวกะโยงคำ (บิดานางสีดา) คิดหาทางที่จะช่วยท้าวกำพร้าตามหานางสีดา เมื่อท้าวกำพร้านอนหลับจึงอุ้มขึ้นไปจากใต้บาดาล แล้วนำไปไว้ในป่าแห่งหนึ่งบนเมืองมนุษย์ เมื่อตื่นขึ้นมาท้าวกำพร้าก็ออกตามหานางสีดา ระหว่างทางนั้นได้พบกับ "นางอำคา" ลูกสาวยักษ์กันดาร และได้นางอำคาเป็นภรรยา (ภรรยาคนที่ ๒) นอกจากนั้นยังได้ของวิเศษจากยักษ์ คือ เกือกแก้วและดาบกายสิทธิ์ คำหมากเคี้ยวและปลายลิ้นของพญาปากเข็ด ซึ่งเป็นของวิเศษ ถ้าใครเคี้ยวอยู่ในปากขณะที่ยังไม่จืด สามารถเหาะได้ และสั่งให้ผู้จะมาทำร้ายตนตายตามได้ จากนั้นจึงมาพบหมูใหญ่ ชื่อ "พรหมขันธ์" เป็นหมูที่มีฤทธิ์เดชมาก เมื่อต่อสู้กันท้าวกำพร้าจึงได้ฆ่าหมูตาย ต่อมาเดินทางมาพบ "นางจันทา" ธิดา "พระยาผาจวง" ซึ่งถูกพิษงูกัด ท้าวกำพร้ารักษาเสกมนต์ชุบชีวิตให้ฟื้นคืนเป็นปกติ และได้นางจันทาเป็นภรรยา (ภรรยาคนที่ ๓) จากนั้นท้าวกำพร้าจึงพานางอำคาและนางจันทา ไปยังเมืองอุดม เพื่อพบมารดาของตน และจะไปรับนางสีดาคืนจากพระยากุญชโร เมื่อไปถึงท้าวกำพร้าทราบว่า มารดาถึงแก่กรรมแล้ว จึงใช้ของวิเศษที่มีอยู่ชุบชีวิตมารดาให้ฟื้นคืนดังเดิม และเมื่อมารดาได้บอกที่ฝังศพของบิดา จึงชุบชีวิตบิดาคืนเช่นเดียวกัน ท้าวกำพร้าได้เนรมิตเมืองใหม่ให้บิดามารดาอยู่อย่างเป็นสุข เป็นการตอบแทนบุญคุณของบิดามารดา ท้าวกำพร้าจึงพานางอำคาและนางจันทาไปอยู่ในสวนท้ายเมืองอุดม โดยให้นางทั้งสองแต่งตัวสวยงามราวนางกษัตริย์ ส่วนท้าวกำพร้านั้นแต่งตัวเป็นคนยากจน พระยากุญชโรให้ทหารมารับนางธิดาทั้ง ๒ นางเข้าไปในวัง และให้จับท้าวกำพร้าไว้ ท้าวกำพร้าต่อสู้กับทหารโดยเสกทหารตัวแข็งดังหิน เหลือไว้เพียงคนเดียว เพื่อไปบอกพระยากุญชโรยกทัพมาต่อสู้กับตน เมื่อมีการต่อสู้ท้าวกำพร้าก็เสกให้พระยากุญชโรตัวแข็งดังหิน เสกให้น้ำท่วมเมือง ทุกคนในเมืองตายหมด เหลือเพียงนางสีดาและบริวาร ๑๐๐ คน ท้าวกำพร้าไปพบนางสีดาและเสกให้น้ำแห้ง ชุบชีวิตพระยากุญชโรและชาวเมืองทุกคนให้ฟื้นคืนดังเดิม พระยากุญชโรยอมรับผิดทั้งหมดและส่งนางสีดาคืนท้าวกำพร้า และได้ยกบ้านเมืองให้ท้าวกำพร้าครอบครอง แต่ท้าวกำพร้าปฏิเสธ จึงยกเมืองคืนให้พระยากุญชโรครอบครองดังเดิม พร้อมกับสั่งสอนให้พระยากุญชโรตั้งตนอยู่ในศีลธรรม ยักษ์กันดารบิดาเลี้ยงนางอำคาทราบว่า นางหายไปพร้อมกับขโมยเกือกแก้วและดาบกายสิทธิ์ของตนไปด้วย จึงออกตามหาพบนางอำคาและท้าวกำพร้าได้ต่อสู้กัน ยักษ์กันดารถูกท้าวกำพร้าไก่แก้วฆ่าตาย หลังจากนั้นจึงชุบชีวิตกลับคืนและได้ขอร้องยักษ์กันดารให้เลิกกินคน ยักษ์รับคำแล้วจึงลากลับเมืองตน จากนั้นท้าวกำพร้าไก่แก้วพร้อมด้วยภรรยาทั้งสาม คือ นางสีดา นางอำคา และนางจันทาได้เนรมิตเมืองขึ้นใหม่ และได้ครองเมืองอย่างมีความสุข ต่อมานางสีดาให้กำเนิดบุตรชายชื่อ "ปุณนาคคงคา" ส่วนนางอำคาและนางจันทาไม่มีบุตร จึงรักปุณนาคคงคาดังบุตรตน ปุณนาคคงคาเป็นคนดี จึงเป็นที่รักของทุกๆ คน
กำพร้า, การต่อสู้เพื่อความรัก, อิทธิฤทธิ์ปาฎิหารย์, นางผมหอม
กำพร้าไก่แก้ว, นางสีดา นางอำคา, นางจันทา, ท้าวกะโยงคำ, พระยากุญชโร
การอยู่ในศีลธรรม, ความกตัญญู, ความมีเมตตา
เมืองบาดาล
TH
TH
Website
TEXT
www.isangate.com
นิทานมหัศจรรย์